Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

บทที่2 : กุญแจสู่ปัญหา

Go down

28112010

ตั้งหัวข้อ 

บทที่2 : กุญแจสู่ปัญหา Empty บทที่2 : กุญแจสู่ปัญหา




ความเดิมตอนที่แล้ว: กาลครั้งหนึ่งในอดีตอันไกลโพ้น

บทที่2 : กุญแจสู่ปัญหา Klir1

บทที่2 : กุญแจสู่ปัญหา Rkde2

บทที่2 : กุญแจสู่ปัญหา Qis93

บทที่2 : กุญแจสู่ปัญหา M0op4

บทที่2 : กุญแจสู่ปัญหา Osds5




บทที่2 : กุญแจสู่ปัญหา

ทางตะวันออกของเมืองเดธวอลเล่ย์ในยามราตรีถูกปกคลุมด้วยความเงียบสงัด

อุณหภูมิของทะเลทรายยามค่ำคืนแทบจะติดลบ บรรดาสัตว์มีพิษและอสูรขนาดใหญ่เริ่มออกมาเดินเพ่นพ่าน

จึงไม่แปลกที่ชาวเมืองทุกคนจะเก็บตัวอยู่ในบ้าน มีแต่บางคนเท่านั้นที่ยังจับกลุ่มตั้งวงก้งเหล้ากันที่ใจกลางของเมือง



... แต่แล้วความเงียบงันในยามค่ำคืนก็ถูกทำลายโดยเสียงฝีเท้าของคนๆหนึ่ง ....

... นาทีต่อมา เสียงที่ชวนให้ตกใจกันทั้งเมืองก็ดังขึ้น!! ...

“เฮ้ย! มันอยู่นั่นไง ตามจับให้ได้ เร็ว!!!”



เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีกลุ่มพลทหารลาดตระเวนอย่างสุดชีวิต บรรดาพลลาดตระเวนพวกนั้นมีอาวุธครบมือ

ไม่ว่าจะเป็นปืนไรเฟิลกระบอกยาว ปืนสั้น หรือรวมไปถึงระเบิดขนาดเล็ก



.. ชาวบ้านหลายคนสะบัดผ้าม่านออกเพื่อจ้องมองเหตุการณ์เบื้องนอก แต่แทบทุกคนก็เมินเฉยราวกับเป็นเรื่องปกติ ..



เปรี้ยง !!

ไรเฟิลกระบอกหนึ่งถูกยิงขึ้นฟ้าเป็นเชิงขู่ เด็กหนุ่มชะงัก

กลุ่มพลลาดตระเวนตามชายหนุ่มทันที่บริเวณหน้าผาหินทางเข้าซากโบราณ พวกเขาตีวงล้อมรอบๆเด็กผู้โชคร้าย

สายตาจับจ้องราวจะกลืนกิน “แก บังอาจมากนะ ถ้าไม่มีผู้พันคาร์เตอร์คุ้มหัวแก ฉันเอาแกตายตั้งแต่เช้าแล้ว”

ฟุ่บ !! เคล้ง !!

สะเก็ดไฟของโลหะปากกระบอกปืนกระจายขึ้นเพราะการปะทะของอาวุธบิน

ฉึก !!

เงาบางอย่างพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว พลลาดตระเวนคนหนึ่งล้มลง ร่างนั้นมีบาดแผดที่คอ

เลือดสีแดงเข้มไหลลงมาย้อมผีนทรายสีเข้มคล้ายถูกกรีดด้วยของมีคมอย่างรวดเร็ว

ตุ้บ.. ฟู่ว!!

ระเบิดควันลูกหนึ่งถูกโยนเข้ามากลางวง อากาศบริเวณนั้นกลายเป็นสายธารหมอกในพริบตา!!



ฉัวะ!!

เงาลึกลับหมุนตัวตวัดอาวุธในมือทั้งสองปาดคอทหารรอบตัวโดยไม่สนใจเสียงร้องลั่นของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย

พลลาดตระเวนทั้งหมดถูกสังหารในไม่กี่วินาที !!



พลั่ก !!

ร่างของพลลาดตระเวนถูกเหวี่ยงมากระแทกเข้ากับเด็กหนุ่มที่กำลังช็อคกับเหตุการณ์เบื้องหน้า

ทำให้ทั้งเขาและร่างไร้วิญญาณของทหารตกลงสู่หุบเหว !!

..

.....

.........

ตูม !!

ลำธารเชี่ยวกรากเบื้องล่างถูกรบกวนด้วยบรรดาร่างไร้ชีวิต และเกือบจะไร้ชีวิตของมนุษย์

ผู้ที่ไม่เคยเหยียบย่างเข้าในในบริเวณนี้หลายร้อยปี

สายธาราพัดพาพวกเขาสู่แดนมรณะ สถานที่ไร้ชีวิตที่ขาดคนเหลียวแล

ส่วนหนึ่งของหุบเขาแห่งความตายที่ถูกผนึกมานับศตวรรษ ...



_______________________________________



ดวงอาทิตย์ยามเช้าทอแสงผ่านยอดไม้ กระทบลงบนใบหน้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่นอนหลับอยู่บนพื้นริมตลิ่ง

เขาค่อยๆเปิดตา เพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงของเช้าวันใหม่ พร้อมด้วยความรู้สึกหนักๆบนตัว ...



แกร๊ก!!

...... มีดบินสีดำอันหนึ่ง หล่นลงมาจากร่างไว้วิญญาณที่ทับเขาอยู่ ……



“เหวยยยย !!” เสียงร้องลั่นของเด็กหนุ่มสะท้อนไปทั่วบริเวณ ทำเอาแร้งกาที่นั่งจ้องจะจิกไส้เขากระเจิงออกไปนับสิบเมตร

ร่างของหนุ่มน้อยดิ้นรนออกจากภายใต้ร่างของศพทหาร พร้อมกวาดสายตาไปบริเวณรอบๆ อย่างร้อนรน



“พวกทหารเลวบัดโซ้บบบ พวกแกติดค้างชีวิตชั้น ชั้นจะฆ่าแก๊” ไม่ทันหายตกใจ การระบายที่บ้าคลั่งที่สุดก็เกือบบังเกิด

เมื่อเด็กหนุ่มยกเท้าจะกระทืบร่างไร้ชีวิตของทหารซ้ำ ก่อนจะหันไปเห็นสิ่งหนึ่ง

.... อะไรก็ตามที่ทำให้ชายใจแข็งยืนนิ่งได้เป็นนาที....



มันคือโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตคล้ายจระเข้และมนุษย์ร่างกำยำจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ทั่วอาณาบริเวณ

ดวงอาทิตย์โผล่พ้นยอดไม้สาดส่องสว่าง เผยภาพเบื้องหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น



... ณ แท่นหินขนาดใหญ่ตรงกลาง ปรากฏดาบเล่มหนาสนิมเขรอะปักกลางกะโหลกโครงกระดูกสิ่งมีชีวิตประหลาด

....โครงกระดูกคล้ายจระเข้ขนาดยักษ์ที่ยืนด้วยขาสองข้าง ในท่าคุกเข่า...

ในมือของมันมีขวานเล่มยักษ์ใช้ต่างเสาค้ำยันตัวมันไม่ให้ถล่มลงไปกองเป็นชิ้นๆบนพื้น

โซ่ตรวนนับสิบที่พันธนาการโครงกระดูกขนาดยักษ์ไว้อย่างหนาแน่นช่วยเพิ่มความน่าสยดสยองของมันได้อย่างดี



.... ช่องดวงตาหลุบลึกในกระโหลกดูเหมือนจะเพ่งตรงมาบริเวณที่เขายืนอยู่ .....



เด็กหนุ่มมองด้วยสายตาหวาดกลัวระคนแปลกใจ เขาก้าวขาไปเบื้องหลังช้าๆ

แต่รองเท้าหุ้มส้นตัวดีดันไปเหยียบแจกันดินเผาโบราณแตกกระจาย...



กึก.. เคล้ง !! เครื่องจองจำอายุนับร้อยปีขาดสะบั้นลงด้วยพลังบางอย่าง

ใบขวานสีน้ำตาลแดงดูร้อนเหมือนทองกำลังหลอมละลายบนด้ามขวาสีดำสนิท

พร้อมด้วยร่างของจระเข้ขนาดยักษ์บนแท่นพลันมีเนื้อหนังราวกับสิ่งมีชีวิตพุ่งตรงเข้ามาที่ตัวเขา!!

เด็กหนุ่มเงื้อมือขึ้นกัน แม้จะรู้ว่าไม่มีทางรอด

“ผมไม่ได้ทำร้ายคุณนะ!!” พลันเสียงร้องพ้นริมฝีปากเด็กน้อย คำสาปมลายไปสิ้นด้วยเงื่อนไขแห่งมนต์โบราณ



ตูม !!

ขวานยักษ์ถูกจามลงบนพื้นดินต่อหน้าผู้บุกรุกต่างเผ่าพันธุ์ ฝุ่นหินและดินกระจายขึ้นมาจำนวนมหาศาล !!



พรึ่บ !! เคล้ง!!

ดาบเหล็กเล่มใหญ่ที่เคยปักบนศีรษะจระเข้หลุดลอยเฉียดหัวเด็กหนุ่มไปกระแทกโขดหินเบื้องหลังแตกกระจาย!!

ร่างของจระเข้ยักษ์กลายเป็นเถ้าธุลีพุ่งผ่านเด็กหนุ่ม เขายกแขนขึ้นกันหน้าด้วยความหวาดกลัว

เหลือไว้เพียงขวานหินโบราณเล่มเขื่อง คาอยู่บนพื้นดินเบื้องหน้า....



ตุบ ..

ร่างอันซีดเซียวด้วยความตกใจล้มลงนั่งกับพื้น เสียงลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกปลดปล่อยหลังจากกลั้นไว้หลายวินาที

... ขวานหินเล่มใหญ่เบื้องหน้าเป็นหลักฐานชั้นดี ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ได้เกิดขึ้นจริง …


รูม่านตาของเด็กหนุ่มหดเล็กลงเมื่อมองเห็นบางอย่างบนด้ามขวาน อักขระโบราณถูกจารึกไว้อย่างปราณีตงดงาม

... อักขระโบราณหน้าตาประหลาด ?? เมื่อครู่นี้มันปรากฎขึ้นอย่างช้าๆโดยเขาไม่สังเกตอย่างนั้นหรือ ? ...


ด้วยความสงสัย มือน้อยๆของเขาเอื้อมไปคว้าขวานเล่มนั้นโดยไม่ทันคิดถึงน้ำหนัก

ไม่น่าแปลกใจที่มันแทบจะไม่ขยับเขยื้อนเลย

“ฮึบ”

สองมือของเขาสั่นเทา เมื่อพยายามออกแรงกระชากขวานเล่มนั้นขึ้นมาจากผืนดิน

ฟุ่บ!!

โดยไม่ทันตั้งตัว อักขระเวทย์เคลื่อนย้ายเรืองแสงเรืองรองจากด้ามขวานด้วยแรงกระตุ้นบางอย่าง

มันส่งร่างของเด็กหนุ่มไปสู่โบสถ์แห่งแสงสว่างในเซาท์เทิร์นฟอร์ท เมืองหลวงแห่งอาณาจักร



“ว้าย !” แม่ชีสาวผู้กำลังเก็บกวาดชั้นหนังสืออุทานด้วยความตกใจ บาทหลวงลุกขึ้นมาจากแท่นบูชาด้วยสีหน้าซีดเซียว

.. สิ่งสุดท้ายก่อนที้เขาเห็นสติจะดับไป เห็นคือใบหน้าอันงุนงงของบาทหลวง ที่จองด้วยความฉงน ...





…ท่ามกลางโครงกระดูกนับร้อยพัน วิญญาณของเหล่าพลลาดตระเวนกลายเป็นละอองหมอกสีเงิน


ลอยเข้าไปหาสิ่งมีชีวิตร่างกำยำคล้ายมนุษย์ หากแต่มีเขาสีดำสนิทประดับอยู่บนศีรษะ

เขาลูบเครายาวสีเงินยวงด้วยความพอใจในวิญญาณที่ได้มาสะสมใหม่

พลางชูไม้เท้าร่ายเวทย์ส่งสาส์นเตือนสู่ทุกหนแห่งที่เขาจะนึกออก

หัวกะโหลกเพลิงสีส้มลอยออกมาสมทบด้วยท่าทางขี้เล่น

กรั๊กๆ

เสียงกระทบกันของกระดูกฟันกรามดังขึ้นเบาๆเมื่อมันลอยวนรอบตัวชายชรา

“มันเริ่มขึ้นแล้ว .. มันเริ่มขึ้นแล้ว หึหึหึ...” ชายผู้นั้นหัวเราะกับตัวเองเบาๆ

เขาใช้หัตถ์สีซีดลูบหัวกระโหลกเพลิงนั้นราวกับเป็นลูกแมวก็ไม่ปาน



เบื้องบนแห่งหุบเหว ทะเลทรายร้อนระอุยามเช้า สายลมที่ปราศจากไอชื้นพัดพาฝุ่นผงกระจายราวกับเป็นคลื่นในทะเล

แรงกดดันแห่งวิญญาณพวยพุ่งขึ้นมาทั่วบริเวณ… แรงขึ้นทุกขณะจนทำให้บรรดาสิ่งมีชีวิตแตกกระเจิงจากใต้เนินทราย

ครืนนนน ...

เสียงกรีดร้องของวิญญาณอาฆาตนับพันแห่งซอร์เรี่ยนดังลอยแว่วขึ้นมาสู่หุบเขามรณะฟังคล้ายลมโหยหวน

ไม่มีใครทราบว่าครั้งนี้มันแฝงถึงความอาฆาตที่มีต่อมนุษย์อย่างชัดเจนกว่าครั้งใด

ไม่มีใครรับรู้ถึงความเคียดแค้นที่สะสมมานานนับศตวรรษ

และไม่มีใครรู้ ว่านี่จะเป็นการกรีดร้องครั้งสุดท้าย เพื่อเปิดฉากมหาสงครามของพวกมันอีกครั้งหนึ่ง ...





เหนื่อยแฮะ เดะค่อยๆลง ค่อยๆแก้ไขละกันน้า ใครมีไรเสนอแนะ บอกได้นะครับ


แก้ไขล่าสุดโดย Ne[M]eSi[s] เมื่อ 2010-12-03, 17:26, ทั้งหมด 4 ครั้ง
Ne[M]eSi[s]
Ne[M]eSi[s]
Moderator
Moderator

Hero : Cless
Hero Name : 水山
จำนวนข้อความ : 58
Post Points : 64821
Reputation : 0
วันที่สมัครสมาชิก : 27/11/2010
อายุ : 28
ที่อยู่ : ในกล่องหน้าบ้านคุณพร้อมป้ายแปะ - เอาไปเลี้ยงที

http://4-9-information-3.blogspot.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

Share this post on: reddit

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ